วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Baobab







Adansonia Digitata มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 species แหล่งเดิมของทั้ง 6 species อยู่ใน Madagascar (เกาะใหญ่อยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา) และอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของแอฟริกาและออสเตรเลีย (ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีป) อีกแห่งละหนึ่ง species


Baobab เป็นต้นไม้มหัศจรรย์อย่างแท้จริง เพราะต้นไม้นี้จะสูงได้ถึง 5-30 เมตร ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7-11 เมตร (ในจังหวัด Limpopo ที่ South Africa ต้น Baobab เป็นต้นไม้ที่เชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เมตร) เชื่อว่ามีอายุอยู่ได้นับพันปี เป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยมีแมลงมารบกวน มีรากชอนไชลงไปลึกมากใต้ดิน ชอบแสงแดดจัด ขึ้นได้ดีในดินปนทราย และขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ ไม่อยู่เป็นกลุ่มก้อนเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ผลของต้นไม้นี้ มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 10-26 ซ.ม. จนได้ชื่อว่า king of the superfruit เมื่อเดือนกรกฏาคม ปี 2008 ทาง EU ได้ตกลงอนุญาตให้นำเข้าเนื้อแห้งของผลไม้นี้ ในการทำ smoothies และใช้เป็นอาหารใน cereal barsได้ ต่อไปทางสหรัฐอเมริกาก็คงจะอนุมัติเช่นกัน และต่อไปคนยุโรปและอเมริกันก็คงจะได้บริโภคผล Baobab สดๆต่อไป มี ผู้คน ไปทดลองชิมกันมาก และเมื่อสื่อต่างๆไปสอบถาม คนส่วนใหญ่บอกว่า เมื่อดูภายนอกผลไม้นี้ ดูคล้ายๆกับลูกมะพร้าวที่ยังอ่อนอยู่ ข้างในมีเนื้ออ่อนนุ่ม แต่รสชาติเมื่อเอามาผสมกับน้ำ ทำเป็นเครื่องดื่มแล้ว ไม่ค่อยมีรสเท่าใด แต่ถ้าเอาเนื้อในมาทำแยมแล้ว อร่อยใช้ได้ สีคล้ายๆน้ำผึ้งที่มีสีเข้ม รสชาติคล้ายๆผิวส้ม แต่เนื้อแยมออกทางลูกแพร์ แต่ถ้าดูถึง ประโยชน์แล้ว มีงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของ Baobab มากพอควร พบว่าผลของมันนั้นในน้ำหนักเท่ากับผลไม้อื่น มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 6 เท่า มีสารAntioxidants (สารป้องกันโรคมะเร็ง) มีโปตัสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โซเดียม แมงกานิส สังกะสี แม็กนีเซียม และ วิตามินอื่นๆอีก เช่น B1 B2 B6 Niacine มากอย่างไม่น่าเชื่อ จึงได้ชื่อว่า "super-fruits" เช่นเดียวกับ ผลทับทิม และแครนเบอรี่




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น