วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันแม่แห่งชาติ




วันแม่แห่งชาติ


งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ


ทำไมจึงใช้ดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่


การที่ใช้ “ดอกมะลิ” เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมที่หอมไปไกลและหอมได้นาน ผลิดอกได้ทั้งปี อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ลึกซึ้งที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ

ดอกเอ๋ยดอกมะลิ
ถึงยามผลิกลิ่นพราวสกาวต้น
สดสะอาดปราศสีราคีระคน
เหมือนกมลใสสดหมดระคาย
กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง
เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย
อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย
ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย"


คำประพันธ์บทดอกสร้อยชื่อ แม่จ๋า ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา
คำขวัญพระราชทาน เนื่องใน วันแม่แห่งชาติ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ



คำขวัญวันแม่ ปี 2552


แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้างขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร

เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่ เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม



คำขวัญวันแม่ ปี 2551


เมื่อเกิดมาอาศัยถิ่นแผ่นดินไหน หากคนไทยรู้ตอบแทนคุณแผ่นดิน

ควรมีใจกตัญญูรู้คุณถิ่นจักไม่มีวันสิ้นแผ่นดินไทย



คำขวัญวันแม่ ปี 2550


ข้าวในนาปลาในน้ำคำโบราณฝากลูกไทยร่วมห่วงแหนรักแผ่นดิน

คือตำนานความอุดมสมบูรณ์สิน ถนอมไว้อย่าให้สิ้นแผ่นดินไทย



คำขวัญวันแม่ ปี 2549


รักในหลวงพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองใส่สีเดียวแล้วใจเดียวกลมเกลียวกัน

รักบ้านเมืองจงน้อมใจให้สร้างสรรค์รักเช่นนั้นชาติของตนจึงพ้นภัย



คำขวัญวันแม่ ปี 2548


ดุจดังแม่ผู้ประเสริฐบังเกิดเกล้าทุกคำข้าวคือสินแผ่นดินไทย

เลี้ยงเราทุกคนมาจนใหญ่ควรตรองใจทดแทนคุณแผ่นดิน



คำขวัญวันแม่ ปี 2547


เลี้ยงลูกมาอย่างน้อยเจ็ดร้อยปี

ให้อยู่ดีกินดีมีสุขถ้วน

แม้มีใจกตัญญูรู้การควร

ไทยทั้งมวลจงตอบแทนคุณแผ่นดิน

และ

แผ่นดินไทยให้ชีวิตจิตวิญญาณ

เลี้ยงสังขารลูกไทยจนใหญ่กล้า

เทียบพระคุณของท่านคือมารดา

จงรักษาและทดแทนคุณแผ่นดิน



คำขวัญวันแม่ ปี 2546


สามร้อยหกสิบห้าวันคือวันแม่ สม่ำเสมอสมัครจิตคิดคำนึง

มิใช่แค่วันใดให้นึกถึงเหมือนแม่ซึ่งรักลูกครบทุกวัน



คำขวัญวันแม่ ปี 2545


แม่คือพระประจำอยู่ในบ้าน พระคุณแม่เลิศล้ำเกินรำพัน

บูชาท่านไว้เถิดเกิดมิ่งขวัญแม่จึงเป็นคนสำคัญทุกวันไป



คำขวัญวันแม่ ปี 2544



" พระองค์แรกผู้แสนดีให้ชีวิต หมอคนแรกผู้ถือช้อนคอยป้อนยา

ครูคนแรกผู้ประสิทธิ์การศึกษารวมคุณค่านี้ได้แก่แม่เราเอง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น